วันนี้เรามีนักธุรกิจแหวนเงินต้นแบบจากคนที่มีชีวิตแสนธรรมดา
ใช้หนึ่งสมองสองมือฟันฝ่าอุปสรรคจนกลายเป็นเจ้าของธุรกิจแหวนเงินส่งออกระดับประเทศ ที่มีสาขาทั้งในและต่างประเทศมากมาย กว่าเธอจะมีวันนี้ได้เธอผ่านอะไรมาบ้าง
วันนี้คุณปรียา สาวเจ้าของธุรกิจแหวนเงินชื่อดังจะมาพูดคุยให้ฟังในวันนี้
ตอนเด็กๆนั้นฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน อาศัยอยู่กับคุณแม่และคุณตาค่ะ ส่วนคุณพ่อและคุณยายนั้นตายหมดแล้ว และตัวเองยังมีพี่น้องอีก 3 คนโดยตนเองนั้นเป็นพี่คนโตของครอบครัว แม่มีอาชีพเป็นแม่ค้าตามตลาดนัด ตัวเองเลยต้องไปช่วยแม่ขายของด้วย เพราะความที่เราเป็นผู้หญิงรักสวยรักงามชอบเดินไปที่แผงขายกิ๊ฟช้อปเครื่องประดับต่างๆ แน่นอนล่ะเงินค่าตัวหมดไปกับของพวกนี้ ส่วนเครื่องประดับที่ชื่นชอบมากนั้นก็คือ แหวนเงิน ตอนนั้นชอบใส่ไปอวดเพื่อนที่โรงเรียนมากๆ ถึงขนาดสะสมเป็นคอลเลคชั่นกันเลย
เชื่อไหมตั้งประถมจนถึงมัธยมนั้นมีแหวนเงินเยอะมากเกือบร้อยวงเลยล่ะ
เมื่อโตขึ้นมาหน่อยได้มีโอกาสมาเรียนโรงเรียนมัธยมในเมือง ได้เรียนในเรื่องของการออกแบบต่างๆจากครูศิลปะ และตัวเองก็แปลกใจมากเมื่อสามารถทำคะแนนวิชานี้ได้ดีกว่าวิชาอื่นๆ อยู่มาวันหนึ่งหลังเลิกเรียน ก็ไปห้องศิลปะจะเอางานไปส่ง เห็นครูพัช ครูสอนศิลปะกำลังออกแบบแหวนอยู่ ครูบอกว่าเป็นร้านเครื่องประดับของเพื่อนครูเอง ตอนนั้นสนใจมากๆเพราะว่าชอบเรียนด้านการออกแบบและก็ชอบแหวนเงินมากอยู่แล้ว จึงขอครูอยู่ทำงานด้วย ครูใจดีมากให้อยู่ดูแล้วก็สอนวิธีให้มากมาย เราก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ จนตอน ม. 6 ตอนที่กำลังจะเตรียมตัวเรียนต่อ จึงเริ่มปรึกษากับคุณครูว่าอยากเรียนทางด้านการออกแบบ ครูก็เห็นวาเรามีพรสวรรค์ด้านนี้มากแล้วคุณแม่ก็ไม่ว่าอะไรด้วยถ้าเราจะเลือกเรียนด้านนี้ ครูพัชเลยสอนหลักการทุกอย่างให้ เมื่อเราสอบเข้าเรียนต่อ เราก็สอบได้คณะที่ต้องการเพราะว่าเราทำคะแนนภาคปฏิบัติได้ดีมาก เราก็เรียนมาเรื่อยๆ พยายามออกแบบนู่นนี่นั่นแต่ยังไม่ทิ้งเรื่องการออกแบบแหวน บางทีออกแบบเป็นคอลเลคชั่นเลยนะ เหมือนเวลาเราสะสมแหวนตามตลาดนัดเลย และเมื่อใกล้จบการศึกษาทางคณะอาจารย์ได้จัดให้นักศึกษาแสดงนิทรรศการในเรื่องของการออกแบบซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบจบนั่นเอง ด้วยความที่เราออกแบบแหวนไว้เยอะเลยนำมาจัดแสดง และคุณเชื่อไหมล่ะนี่คือจุดเปลี่ยนของชีวิตเลยล่ะ ในตอนนั้นมีร้านขายเครื่องประดับเงินมาดูการจัดแสดงด้วย และได้ถามหาผลงานการออกแบบของเรากับอาจารย์ อาจารย์จึงพามาพบกับเรา เจ้าของร้านนี้เขาชื่อ คุณพิช เขาบอกว่า ผมชอบการออกแบบแหวนของคุณมากและผมกำลังมองหานักออกแบบแหวนเงินใหม่ๆแบบเป็นเซ็ตอย่างนี้อยู่พอดี หลังเรียนจบผมขอรับคุณเข้าทำงานทันทีเลยครับ โห ตอนนั้นดีใจมากหลังเขาเดินออกจากร้านไปนี่ แทบกรี๊ดค่ะ รีบโทรหาแม่เลย แม่ก็ดีใจมากๆ
หลังจากเรียนจบก็ไปทำงานกับคุณพิชที่ร้านและได้ดิวงานกับบริษัททั้งในและต่างประเทศมากมาย ได้เห็นทั้งข้อดีข้อด้อยในธุรกิจเครื่องประดับเมื่อถึงจุดจุดหนึ่งเรามีเงินเก็บก้อนหนึ่งกับประสบการณ์ในวงการของแหวนเงินมานานนับ 10 ปี ทำให้คิดว่า ถ้าเราจะออกมาทำร้านเองจะดีไหม จึงได้ลองปรึกษากับคุณพิช และแน่นอนค่ะคุณพิชให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี และต้องขอขอบคุณคุณพิชมากที่ทำให้เราได้มีร้านในฝันของตนเองชื่อร้านว่า อาณาจักรแห่งแหวน ตอนแรกจะทำแต่แหวนเงินแต่มาคิดดูแล้วว่าถ้าทำแบบนั้นก็จะเป็นการจำกัดกลุ่มลูกค้ามากจนเกินไป จึงเริ่มมีการทำแหวนเพชร แหวนพลอยมาบ้างเพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้นนั่นเองค่ะ ดูสิคะจากเด็กที่ชอบซื้อแหวนวงละ 20 บาทจากตลาดนัดตอนนี้และค่อยๆสะสมแระสบการณ์ด้วยความตั้งใจของเรามานานเกือบ 20 ปี บ่มเพาะตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงแม้ร้านของเราจะเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่กลับขยายสาขาได้แล้วทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะว่าเรานั้นเข้าใจในเรื่องของความต้องการของลูกค้าในเรื่องของแหวนต่างๆ โดยเฉพาะ แหวนเงิน และมีการฝึกหัดพนักงานในเรื่องของเครื่องประดับใหม่ๆอยู่เสมอเพื่อที่จะสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ตอบข้อซักถามและข้อสงสัยให้ได้มากที่สุด พร้อมกับดูแลกำกับติดตามลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ที่พูดมานั้นคือกลยุทธ์ที่ทางร้านยึดมั่นมานาน เพราะถ้าดูแลลูกค้าไม่ดีก็เท่ากับว่าเรานั้นกำลังจะสูญเสียธุรกิจของเราไปได้เลย ส่วนในเรื่องของสาขาต่างๆนั้นก็มีการจัดอบรมพนักงานที่สำนักงานใหญ่และส่งไปประจำในตำแหน่งต่างๆเพื่อรายงานส่งบริษัทคอยตรวจเช็คการดำเนินงานด้วย เพื่อปรับปรุงให้ลูกค้าของแต่ละสาขาพึงพอใจในร้านอาณาจักรแห่งแหวนของเราให้มากที่สุด นี่ล่ะคือบทสรุปของความมุ่งมั่นตั้งใจจากเด็กสาวธรรมดาที่ชื่นชอบแหวนตามตลาดนัดต่อยอดเป็นเจ้าของธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย การเดินทางอันแสนยาวนานพร้อมกับการฝ่าฟันต่อสู้ปัญหาก็เริ่มผลิดอกออกผลบ้างแล้วเพียงแต่นี่คือก้าวเริ่มต้นของเธอเท่านั้น เธอยังต้องพัฒนาต่อไปเพื่อให้วงการเครื่องประดับไทยเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับทุกประเทศ นี่คือคำกล่าวสุดท้ายของ ปรียา ฤทธา สาวผู้หลงใหลในแหวน